กว่าจะเป็นเภสัชกรร้านยา

จดหมายเปิดผนึกถึงน้องๆที่อยากเรียนเภสัช...

         พี่เป็นคนหนึ่งที่สมัยเด็กประมาณ 20 ปีมาแล้ว คิดว่า อาชีพเภสัชกร ร้านยา เป็นอาชีพที่น่าจะมีรายได้ดี เพราะสมัยนั้นยาเป็นอะไรที่กำไรดีมาก  เป็นเจ้านายตัวเองไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร จึงตัดสินใจเลือกเรียนเภสัช จนกระทั่งสอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีบรรยากาศสวยงาม ตอนนั้นก็ตั้งใจเรียนมากจนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง 


พอจบออกมาก็ไปทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือโรงพยาบาลสวนดอก ระหว่างเรียนก็ทำ part time ไปด้วยเพื่อหาประสบการณ์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเปิดร้านยา  ตอนแรกได้ไปทำงานในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งเนื่องจาก เป็นคนสนใจเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว ตอนนั้นได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการกดสิว นวดหน้า ขัดหน้า และการทำ treatment ผิวหน้า จึงมีความคิดว่าจะเอาประสบการณ์นี้ไปต่อยอดร้านยาของตัวเอง และด้วยความที่อยากคุยกับฝรั่งได้ จึงไปรับทำร้านยาแถวไนท์บาซ่าซึ่งป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่มาเชียงใหม่อีกด้วย 

หลังจากใช้ทุนครบ 3 ปี ก็ตั้งเป้าไปหาประสบการณ์ ทำงานในร้านยาเฟรนไซน์ แห่งใหญ่ในเมืองเชียงใหม่อีก 2 ที่ ทำงานเก็บเงินอยู่เชียงใหม่อยู่ 5 ปี ก็ตัดสินใจจะเปิดร้านเป็นของตัวเองจึงกลับมาอยู่พิษณุโลก และระหว่างรอเปิดร้านยาก็ได้ไปช่วยพี่ชายทำกิจการร้านคอมพิวเตอร์อยู่ 2 ปี เพื่อเป็นทางเลือกสำรองกรณีทำร้านยาแล้วไม่รุ่ง และจะได้เรียนรู้วิธีบริหารร้านจากพี่ชายด้วย  

และแล้วฝันแรกในการทำร้านยาของผึ้งก็สำเร็จ ได้เปิดร้านยาสมใจ ...... 


                        ระหว่างเปิดร้านยาก็ได้เรียนรู้เรื่อง องค์ประกอบของความสำเร็จ ของร้านยา  ได้แก่

1.ทำเลที่ตั้ง ถ้าเราเลือกเปิดร้านยาที่ห่างไกลชุมชน และจอดรถยาก ก็จะมีผลต่อจำนวนผู้มารับบริการที่น้อยลง ถ้าเราตั้งร้านยาในแหล่งชุมชน ใกล้โรงพยาบาล จอดรถสะดวก นั้นก็ย่อมเพิ่มโอกาสในการขาย แต่ทำเลดีๆ ก็มีราคาแพงเช่นกัน เราอาจจะตั้งโจทย์ในชีวิตก่อนว่าอะไรคือจุดแข็งของเรา ใครคือกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกทำเลที่ตั้งของร้านยาได้ส่วนหนึ่ง เช่นกัน

2.จังหวะเวลา เช่น สมัย10-20ปี ที่เป็นจังหวะเวลาที่ดีในการเปิดร้านยามากเพราะสมัยนั้น ยังไม่มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค  จำนวนร้านยาและ การแข่งขันด้านราคายังไม่มากเท่าปัจจุบัน ดังนั้นการเปิดร้านยาในปัจจุบันเราจึงจำเป็นต้องมีจุดแข็งอื่นๆ เป็นส่วนประกอบร่วมด้วย

3.การแข่งขันด้านราคา เนื่องจากร้านยาในปัจจุบันมีจำนวนเยอะขึ้น บางที่ร้านยาอยู่ใกล้กันมาก ดังนั้นปัจจัยด้านราคาจึงเป็นสิ่งสำคัญ  เราจึงต้องตั้งราคาให้เหมาะสมกับตลาดในพื้นที่นั้นๆด้วย ยาที่เป็นยาเรียกซื้อหากเราขายแพงกว่าราคาตลาด ลูกค้าก็มีสิทธิ์จะเปลี่ยนร้านที่ซื้อได้ทันที เราก็อาจเสียลูกค้าในระยะยาวได้  หรือถ้าร้านไหนอยู่ติดกับร้านค้าส่ง ปัจจัยเรื่องราคาจะยิ่งสำคัญมากทันที

4.ประสบการณ์ และองค์ความรู้ของเภสัชกรร้านยา ยาเป็นอะไรที่มีผลต่อชีวิตและสุขภาพหากเราไม่มี จุดแข็งในการจ่ายยา เราก็จะขายได้แต่ยาทั่วๆไป และเสียโอกาสในการรักษาฐานลูกค้าที่ต้องการความเป็นผู้เชี่ยวชาญของเภสัชกรได้ค่ะ

5.การสร้างกิจกรรมร่วมกับชุมชน การครองใจลูกค้า  อันนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการขยายฐานลูกค้า และสร้างฐานลูกค้าประจำ

6.องค์ประกอบอื่นๆ  เช่น ระบบฐานข้อมูลลูกค้า ระบบสมาชิก การบริการที่สะดวกรวดเร็ว สถานบริการสะอาดปลอดโปร่ง เก็บยาตามมาตรฐาน เป็นต้น
                
               ถ้าน้องๆ มีองค์ประกอบครบขนาดนี้ก็เตรียมเปิดร้านยาได้เลยค่า หลังจากที่ผึ้งเปิดร้านยามาได้ระยะหนึ่ง ยอดขายเริ่มเสถียรและอยู่รอดได้ แต่สิ่งที่ยังไม่ตอบโจทย์ คือเราอยากเพิ่มรายได้ของเรา ซึ่งก็น่าจะมีทางเลือก 2 ทางคือ ทำค้าส่ง หรือไม่ก็ขยายสาขา แต่คำตอบคือ... เรามีทุนมากพอหรือไม่... ก็เลยเกิดคำถามว่า ถ้าเราไม่มี แล้วอยากรวย ต้องทำอย่างไร ???
โปรดติดตามเรื่องเล่าเส้นทางชีวิตสู่ธุรกิจอิสระที่ตอบโจทย์ชีวิตและรายได้ค่า






Tags:

Share:

0 ความคิดเห็น